วันอาทิตย์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2561

ทะเลหมอกเขาศูนย์




ทะเลหมอกเขาศูนย์

เขาศูนย์ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านคลองหราด  ตำบลไม้เรียง  ซึ่งมีอาณาเขตติดต่อกับบ้านปลายเส  ตำบลนากะชะ บ้านทานพอ ตำบลไม้เรียง และตำบลกะเปียด อาณาเขตของเขาศูนย์ ทิศเหนือตั้งอยู่ในตำบลกะเปียด ทิศใต้อยู่ในเขตตำบลไม้เรียง ต่อเนื่องไปด้านทิศตะวันออกซึ่งเป็นอาณาเขตหมู่ที่ 2 หมู่ที่ 5 หมู่ที่ 9 และหมู่ที่ 10 ตำบลไม้เรียงและทิศตะวันตกเป็นเขตบ้านปลายเส ตำบลนากะชะ จากพื้นราบถึงยอดเขาศูนย์ระยะทาง  7  กิโลเมตร  ระยะทางจากตลาดทานพอถึงเขาศูนย์ประมาณ 9 กิโลเมตร  บริเวณโดยรอบเทือกเขาศูนย์จะมีเขาบริวารสามลูก สภาพบนเขาศูนย์จึงเป็นที่ลุ่มดอนสลับกันไป






การเดินทางไปชมทะเลหมอกเขาศูนย์
เริ่มจากสนานีรถไฟทานพอ ชุมชนไม้เรียง อำเภอฉวาง ตรงนี้ลองถามพี่กูเกิ้ลเลยนะครับ คงไม่ยากเกินไป
1 อยู่ในที่จอดรถสถานีรถไฟทานพอ
2 ให้เลี้ยวซ้าย ขับไปตามทาง
3 เจอสามแยกให้เลี้ยวซ้ายเพื่อข้ามทางรถไฟ แล้วเลี้ยวซ้ายอีกครั้ง
4 เราจะอยู่อีกฝั่งของสถานีรถไฟ ฝั่งนี้จะไม่มีที่จอดรถนะครับ ตรงตามทางต่อไป
5 เจอสามแยก ให้เลี้ยวขวาไปทาง อำเภอถ้ำพรรณรา
6 ตามทางไปเรื่อยๆ จะเจอสามแยกให้ ตรงไป บ้านเขาศูนย์
7 ลักษณะสามแยกที่ควรระวังหลงทาง ให้ตรงไปก่อน และชะลอเพื่อจะเบี่ยงขวา
8 เมื่อตรงผ่าน 7 ให้เบี่ยงขวาไปตามทางที่ถนนชำรุด
9 ศาลาเทวดาเขาศูนย์ อยู่ด้านซ้าย นี่แหละถูกทางแล้ว เข้าประตูไปได้เลย
10 ประตูทางขึ้นเขาศูนย์
ขับตามทางเรื่อยๆ ผิวทางชำรุดตามกาลเวลา

ขอบคุณข้อมูลการเดินทางจาก เพจ Suktawee สุขทวี ร้านอาหารนครศรีธรรมราช

น้ำตกท่าแพ



น้ำตกท่าแพ

       น้ำตกท่าแพ อยู่หมู่ที่ 14 ตำบลช้างกลาง สามารถเดินทางจากตัวเมืองนครศรีธรรมราช ไปตามเส้นทางสายนครศรีธรรมราช-จันดี -ฉวาง-บ้านส้อง (ทางหลวงหมายเลข 4015) ระยะทางประมาณ 36 กิโลเมตร และมีทางแยกขวามือมีป้ายบอกทางเข้าน้ำตกประมาณ 2 กิโลเมตร น้ำตกท่าแพมีความสวยงามไม่แพ้ที่อื่น มีทั้งหมด 10 ชั้น ชั้นที่นักท่องเที่ยวสามารถเล่นน้ำได้ คือ หนานแพน้อย หนานนางครวญ และหนานเตย

สถานที่ตั้ง:

น้ำตกท่าแพ อยู่หมู่ที่ 14 ตำบลช้างกลาง อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช





ตลาดชุมทางทุ่งสง




ตลาดชุมทางทุ่งสง

เป็นตลาดคนเดินเปิดใหม่ ที่อำเภอทุ่งสง

กิจกรรมนำร่องในพื้นที่ย่านวัฒนธรรม ผลักดันให้เกิดตลาดวัฒนธรรมภาคใต้วิถีใต้และภูมิปัญญาใต้ชื่อว่า “ตลาดชุมทางทุ่งสง” บนถนนชัยชุมพล ซึ่งมีความยาวประมาณ 160 เมตร พื้นที่รวม 2,275 ตารางเมตร มีชาวทุ่งสงทุกคนเป็นเจ้าของตลาดจึง เป็นตลาดของคนทุ่งสงอย่างแท้จริง









ตลาดน้ำย้อนยุค ปากพนัง




ตลาดน้ำย้อนยุค ปากพนัง


      ตลาดย้อนยุคปากพนัง  สถานที่ท่องเที่ยวที่พลาดไม่ได้หากแวะมาเที่ยวเมืองปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ตลาดแห่งนี้ ตั้งอยู่สอง ริมฝั่งคลองบางฉลากซึ่งเชื่อมต่อกับแม่น้ำปากพนัง ขนานไปกับลำคลอง อีกฝั่งเป็นตลาดที่ติดเลียบกำแพงของเรือนจำ ส่วนอีกจะเป็น บ้านที่อยู่อาศัยที่เปิดเป็นร้านขายของต่างๆ  
     ตลาดย้อนยุคปากพนังถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก โดยอำเภอปากพนัง เป็นเมืองท่าเป็นศูนย์กลางการค้าสำคัญของทะเลฝั่งตะวันออก จึงเป็นแหล่งที่คนมาจับจ่ายใช้สอยมาแต่ไหนแต่ไร เมื่อมีแนวคิดแห่งการ สร้างตลาดย้อนยุคเพื่อสะท้อนบรรยากาศในอดีตของวิถีชีวิตชาวใต้จึงถือเป็นตลาดโบราณที่น่าสนใจ ไม่แพ้ภูมิภาคอื่นๆแต่อย่างใด







การเดินทางมาที่ตลาดย้อนยุคปากพนัง

    จากตัวเมืองนครศรีฯ เดินทางเพียงแค่ 30 นาที ไปตามป้ายบอกทางสู่เรือนจำปากพนัง เพราะรอบๆ เรือนจำของทุกวันอาทิตย์หรือ วันหยุดนักขัตฤกษ์จะปรับสภาพพื้นที่เป็นตลาดย้อนยุค@ปากพนัง โดยเปิดทุกวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ตั้งแต่14.00-20.00 น.



ตลาดน้ำเมืองลิกอร์



ตลาดน้ำเมืองลิกอร์ เมืองต้องห้าม....พลาด


     เป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าของชุมชน เป็นแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชน ประเพณีวัฒนธรรม ภูมิปัญญาชาวบ้าน และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองนครศรีธรรมราช โดยกำหนดให้มีตลาดทุกวันศุกร์สุดท้ายของทุกเดือน




การเดินทาง

เดินทางโดย รถยนต์
จากศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราชเลี้ยวซ้ายขับไปตามถนนราชดำเนินประมาณ 1 กม.ก่อนถึงสะพานหน้าเมือง อยู่ซ้ายมือจะเจอ ตลาดริมน้ำ เมืองลิกอร์

เดินทางโดย รถสองแถว/สามล้อ
จากศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราชเลี้ยวซ้ายขับไปตามถนนราชดำเนินประมาณ 1 กม.ก่อนถึงสะพานหน้าเมือง อยู่ซ้ายมือจะเจอ ตลาดริมน้ำ เมืองลิกอร์
ค่าใช้จ่าย :
รถสองแถว/สามล้อ = 10 บาท

เดินทางโดย มอเตอร์ไซค์
จากศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราชเลี้ยวซ้ายขับไปตามถนนราชดำเนินประมาณ 1 กม.ก่อนถึงสะพานหน้าเมือง อยู่ซ้ายมือจะเจอ ตลาดริมน้ำ เมืองลิกอร์
ค่าใช้จ่าย :
มอเตอร์ไซค์ = 20 บาท


วันพฤหัสบดีที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2561

ตลาด 100 ปีื ปากพนัง นครศรีธรรมราช




ตลาด 100 ปี ปากพนัง



        ตลาด 100 ปี เมืองปากพนัง เป็นตลาดเก่าแก่ดั้งเดิมมากว่า 100 ปี ตั้งอยู่ บริเวณท่าเรือข้ามฝากฝั่งตะวันออก อาคารบ้านเรือนส่วนใหญ่ สร้างด้วยไม้ด้วยความที่ไม่ได้เป็นตลาดปรุงแต่ง ให้เก่าเหมือนหลาย ๆ ที่ ความเรียบง่ายและธรรมชาติของวิถีชีวิตผู้คนแถวนั้น จึงดูมีมนต์ขลังดึงดูดให้เข้าไปเยี่ยมชม ปัจจุบันมีสินค้าของฝากวางขายทั่วไป ปัจจุบันตลาดจะขายในช่วงบ่ายสามโมงถึง 6 โมงเย็น



      โดยตลาดแห่งนี้ตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำ ช่วงต้นตลาดจะเป็นร้านขายของ ลักษณะเป็นห้องแถวติดกันเป็นบล็อก ๆ ส่วนใหญ่ขายขนม พื้นบ้าน อย่างขนมลา มีให้เลือกทั้งแบบกรอบกับแบบเหนียวผสมน้ำผึ้ง เราชิมแล้วชอบแบบกรอบ ที่รสชาติออกหวานเหมือนทองม้วนบ้านเรา นอกจากนี้ ยังมีถั่ว มันขี้หนู (หัวมันชนิดหนึ่ง) และแห้วพื้นบ้าน ของกินแบบบ้าน ๆ  รวมถึงอาหารทะเลสดๆ ราคาย่อมเยาที่ชาวประมง จะมาส่งแม่ค้าทุกวัน และมีปลากระบอกแห้งของขึ้นชื่อของที่นี่ รวมไปถึงขายผัก ผลไม้ รวมไปถึง กุ้งแห้ง ปลาหมึกแห้ง  และอื่นๆ อีกมากมายที่สามารถซื้อนำกลับไปเป็นของฝากได้







โลมาสีชมพู หาดขนอม



โลมาสีชมพู หาดขนอม



ขนอมนี้เป็นแหล่งของปลาโลมาสีชมพูที่อาศัยอยู่ที่นี่ประมาณ 50 ตัว โลมาสีชมพู หรือ ที่เรียกกันว่าโลมาขาวเทา หรือ โลมาหลังโหนก อาศัยอยู่เฉพาะบริเวณปากแม่น้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์ อย่างเช่นที่ที่บริเวณแหลมประทับและอ่าวแขวงเภา หาดขนอม เนื่องจากเป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ จำพวก  ปลากด กุ้ง ปลาหมึก 

 ลักษณะเด่นของโลมาสีชมพูคือ การมีสีชมพูเฉพาะตัว ในตอนเกิดมีสีเทาเหมือนโลมาทั่วไป แต่เมื่ออายุมากสีขาวเผือกหรือสีชมพูจะเกิดขึ้นจากสีของหลอดเลือดที่ช่วยไม่ให้อุณหภูมิร่างกายสูงจนเกินไป จึงทำให้เห็นเป็นสีชมพู





นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมปลาโลมานิยมออกเรือที่แหลมประทับในตอนเช้า โดยจะมีโอกาสพบทั้งโลมาสีเทาและโลมาสีชมพู แหวกว่ายเข้ามาปรากฏโฉมให้เห็นในระยะใกล้ๆ เรียกเสียงเฮให้กับนักท่องเที่ยวให้กับความน่ารักของฝูงโลมาเหล่านี้ โลมาสีชมพูเหล่านี้มีความคุ้นเคยกับคน โดยจะติดตามเรือหางยาวเวลาติดเครื่องเรือและจะว่ายน้ำเข้ามาหาให้เห็นได้อย่างใกล้ชิด ปัจจุบันโลมาเหล่านี้บางตัวมีความเชื่องมากเนื่องจากชาวประมงและนักท่องเที่ยวนิยมให้อาหารปลาโลมา แต่ก็มีผลเสียคือมีผลต่อระบบนิเวศแลกกับการได้เห็นฝูงโลมาอย่างใกล้ชิด



การได้มาพบเห็นปลาโลมาสีชมพูเหล่านี้มักมีโอกาสพบเห็นได้ค่อนข้างมาก ยกเว้นช่วงที่ฟ้าฝนไม่เป็นใจ นักท่องเที่ยวที่เหมาเรือเที่ยว มักจะควบการดูปลาโลมาสีชมพูรวมไปกับการไปเยือน บ่อน้ำจืดที่อยู่กลางทะเล ตั้งอยู่บนเกาะนุ้ยไม่ไกลจากฝั่ง ที่นี่คือต้นกำเนิดตำนานหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด และแวะชมหินพับผ้า หรือ Pancake Rock หินรูปร่างประหลาดที่มีลักษณะคล้ายผ้าพับกัน ใช้เวลาเที่ยวรวมกับประมาณ 2 ช.ม. ควรเตรียมหมวกและครีมกันแดดเพราะเรือบางลำไม่มีที่บังแดดให้

พิกัดท่าเรือแหลมประทับ 9.312172,99.80332
                                พิกัดท่าเรือหาดแขวงเภา 9.282018,99.845074

  ค่าเรือที่แหลมประทับลำละ 1,000 บาท 
                                  ค่าเรือที่อ่าวแขวงเภาลำละ 1,200 บาทนั่งได้ประมาณ 8 คน

                       
   


        การถ่ายภาพปลาโลมาควรมาแต่ตอนเช้า ไม่ควรเกิน 08:00
        เนื่องจากจะเป็นช่วงที่ปลาหากินหลังจากที่ชาวประมงเข้าฝั่ง ช่วงบ่ายมีโอกาสที่เกิด           ฝนตกได้มากกว่า